ศาลยกฟ้อง ‘มายด์ ภัสราวลี’ กรณีชุมนุม ม็อบ21ตุลา ชี้ไม่เข้าข่ายมั่วสุม

ศาลยกฟ้อง ‘มายด์ ภัสราวลี’ กรณีชุมนุม ม็อบ21ตุลา ชี้ไม่เข้าข่ายมั่วสุม

มายด์ ภัสราวลี เปิดเผยว่าศาลยกฟ้องตน กรณีชุมนุมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่่ผ่านมา ชี้ศาลพิพากษาว่าไม่เข้าข่ายการมั่วสุม ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี ซ.สีคาม ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีแขวงดุสิต ซึ่งเป็นคดีที่ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ม.เทคโนโลยี แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และ สมาชิกคณะประชาชนปลดแอก ถูกฟ้อง

ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 

ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวมทั้งประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 15 ต.ค. 63 เรื่องห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมข้อ 1 ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง) จากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 63 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกจากการบริหารประเทศ โดย น.ส.ภัสราวลี เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องตน เนื่องจากศาลเห็นว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร้ายแรง ที่มีการประกาศออกมาจะถูกใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์นั้นฉุกเฉินและร้ายแรงจริงๆ ถึงจะบังคับใช้ได้

และการชุมนุมของประชาชนที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็ไม่เข้าข่ายการชุมนุมมั่วสุม เพราะการมั่วสุมต้องเป็นการรวมตัวกันและมีเจตนาที่ไม่ดี การชุมนุมวันนั้นเป็นการชุมนุมที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 เป็นการชุมนุมโดยสงบ เป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้

“ตนมั่นใจว่าคดีนี้จะเป็นบรรทัดฐานส่วนหนึ่งในการตัดสินคดีอีกหลายคดีที่เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะการชุมนุมของประชาชนเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและสามารถพึงกระทำได้ เชื่อว่าคำพิพากษาส่งท้ายปีในครั้งนี้จะเป็นการเติมกำลังใจให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ของตัวเอง เพราะหลังจากนี้ประชาชนจะมาทวงคืนอำนาจของประชาชนเอง” มายด์กล่าว ประยุทธ์ ออกมาปฏิเสธว่าตนยื้อ เลือกตั้งผู้ว่า กทม. 65 เชื่อได้เลือกตั้งปีไม่เกินกลางปีหน้า ขอผู้ว่าเป็นคนทำงานสนองประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายกฯเคยกล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ว่า รอให้เกิดความสงบจึงจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า นั่นแหละก็ประมาณไม่เกินกลางปี 2565 ซึ่งความพร้อมก็จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ต้องเลือกไปพร้อมกัน

“ผมไม่ต้องการจะดึงอะไรไว้ทั้งสิ้น อะไรที่ปล่อยได้ผมก็ปล่อยหมด สำคัญคือทำอย่างไรจะแก้ปัญหาต่างๆ ที่ค้างคาอยู่ได้ ฉะนั้นผู้ว่าฯ ท่านใหม่ก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย อย่างผมเข้ามาก็มีปัญหาต้องแก้ไขในสิ่งที่ล่วงมาแล้วเยอะแยะมากมาย มันก็ไม่ง่ายนักหรอก

แต่ก็ต้องทำให้ได้ นั่นคือคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม. หรือว่าใครก็ตามต้องทำตามกฎหมายทุกประการ อย่าบกพร่อง ถ้ากฎหมายไม่พร้อมก็ต้องไปหากฎหมายเสนอมา ซึ่งบางอันก็ต้องสู่การพิจารณาของสภาฯ”

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึง สเปกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ในใจ ว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ก็ต้องทำเพื่อประชาชน และทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ต้องกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เพราะ กทม. เป็นอิสระ เราไปยุ่งเกี่ยวเขามากไม่ได้อยู่แล้ว เขามีกฎหมายของเขา ยืนยันว่าไม่ได้ยื้อการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะพร้อม อาจจะเร็วหรือช้าคงต้องดูอีกที จะยื้ออะไรไปทำไมใช่หรือไม่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับตนทั้งสิ้น อะไรที่ทำได้ก็ทำ

‘อนุทิน’ เผยเสนอ ลดระยะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ก่อนการประชุม ศบค.ชุดใหญ่

อนุทิน เผย สธ.เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่ ลดระยะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ชี้อยู่ที่ผู้ว่าจังหวัดในการตัดสินว่าจัดเค้าท์ดาวน์ปีใหม่หรือไม่ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม

โดยนายอนุทินกล่าวว่าที่ประชุมจะมีการหารือ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงความพร้อมฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อสร้างความมั่นใจว่า แม้จะมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามา แต่วัคซีนที่ประชาชนรับไป น่าจะทำให้ปลอดภัย ไม่ป่วยหนัก และไม่เสียชีวิต

จากนี้จะลดระยะเวลาการฉีดเข็ม 3 จากเดิม 4-6 เดือนเปลี่ยนเป็น 3 เดือน สำหรับบางกรณีที่จำเป็น และเขาต้องไม่อยู่ในกลุ่มโรคเสี่ยงก็พร้อมฉีดให้

เมื่อถามว่าภาพรวมขณะนี้ส่งผลกับการทำกิจกรรมในช่วงปีใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราพยายามเปิดให้มากที่สุด เราเฝ้าระวังสายพันธุ์โอมิครอนมากสมควรเพื่อให้เกิดความมั่นใจ อีกทั้งยังสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาให้ชัดเจนว่าความรุนแรงของเชื้อมากระดับใด ถ้าไม่มากกว่าเชื้อสายพันธุ์เดิม เราก็ใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าไม่น่าจะรุนแรง แต่เราต้องมีข้อสรุปต้องมีหลักวิชาการรองรับ

ส่วนที่กังวลว่าสายพันธุ์โอมิครอน จะไปรวมกับสายพันธุ์เดลต้านั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขออย่ากังวล ถ้ากังวลไปเรื่อยๆ ก็ไม่จบ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เราต้องการให้เกิดความสะดวกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เราเน้นย้ำการเฝ้าระวัง ทำเรื่องโควิดฟรีเช็ตติ้งให้ได้ทุกที่ ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ และทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ โอกาสเกิดความเสี่ยงจะน้อยลง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป