ร้านหมูกระทะ วอนลูกค้าหลังถูก ขโมยน้ำจิ้ม เตือนกล้องเพียบ

ร้านหมูกระทะ วอนลูกค้าหลังถูก ขโมยน้ำจิ้ม เตือนกล้องเพียบ

ความอร่อยเป็นเหตุหลัง ร้านหมูกระทะ วอนลูกค้าหลังถูก ขโมยน้ำจิ้ม เผยจับได้ปรับ 500 บาท พร้อมเตือนกล้องวงจรปิด 32 ร้าน เห็นแต่ไม่เอาลง กลายเป็นเรื่องราวสุดไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่ร้านหมูกระทะ จ่าอูหมูเกาหลี – สาขาบางปะกอก ออกมาโพสต์ภาพน้ำจิ้มรสเด็ดพร้อมวอนขออย่าขโมยน้ำจิ้ม เหตุเพราะน้ำจิ้มอร่อยเกิน

ทางร้านระบุว่า ” ถ้ารักกันจริง…. ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ ลูกค้าที่น่ารักทุกคน !! #กล้องที่ร้าน32ตัวเราเห็นคุณนะครับ #ขโมยน้ำจิ้มปรับ500″

นอกจากนี้ทางร้านยังบอกด้วยว่าจริงๆแล้วทางร้านเห็นว่าใครเอาไป เพราะติดกล้องไว้มากถึง 32 ตัว แต่ไม่เอาลง เพราะกลัวลูกค้าเขิล ขอเก็บไว้ในความทรงจำของพนักงานก็พอ

ขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตออกมาประณามการกระทำของลูกค้าคนดังกล่าวและเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษมากขึ้น ปรับ 5 พันบาทไปเลย หรือมีชาวเน็ตอีกส่วนทำน้ำจิ้มขายแยกไปเลย จะได้ไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ตำรวจเอาจริงปราบ พนันฟุตบอลโลก แล้วเกือบ 3 พันราย ยึดของกลางมูลค่ารวมกว่าล้านบาท พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เผยความคืบหน้าการป้องกันและปราบปรามเล่นพนันฟุตบอลภายในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 มีผลการจับกุมดังนี้ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 65 มีผลการจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลโลก โดยจับกุมผู้ต้องหา 620 ราย แบ่งเป็นเจ้ามือ 6 ราย ผู้เล่น 314 ราย ส่วนผลการจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลโลกผ่านเว็บไซต์หรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ ได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นผู่เล่น 33 ราย

รวมผลจับกุม 653 ราย พร้อมของกลาง โพยบอลรวม 353 ใบ เป็นจำนวนเงินที่เล่นพนัน 108,105 บาท เงินสด 2,900 บาท รวมมูลค่า 111, 005 บาท

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ย. 65 มีผลการจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลโลก โดยจับกุมผู้ต้องหา 2,880 ราย แบ่งเป็น เจ้ามือ 47 ราย ผู้เล่น 2,819 ราย และเดินโพย 13 ราย ผลการจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลโลกผ่านเว็บไซต์หรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ โดยได้จับกุมผู้ต้องหา 298 ราย แบ่งเป็น เจ้ามือ 23 ราย และผู้เล่น 275 ราย รวมจับกุมทั้งสิ้น 3,178 ราย พร้อมของกลาง โพยบอลรวม 6,270 ใบ เป็นจำนวนเงินที่เล่นพนัน 988,766 บาท เงินสด จำนวน 94,660 บาท รวมมูลค่า 1,083,426 บาท

สยอง! พบศพ หนุ่มญี่ปุ่นทำพิธีคว้านท้อง ในบ้านพักเชียงใหม่

เจ้าหน้าที่พบศพ หนุ่มญี่ปุ่นทำพิธีคว้านท้อง หรือ ฮาราคีรี ภายในบ้านพักจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนผู้ตายเผยมีอาการป่วยทางจิตเวช หายาในประเทศไทยไม่ได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่โจ้เชียงใหม่พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลสันทราย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลหนองจ๊อม ได้รับรายงานว่ามีชาวญี่ปุ่นฮาราคีรีหรือคว้านท้องเสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบเป็นห้องพักริมสระ ภายในพบศพชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตในสภาพจมกองเลือดมีบาดแผลถูกอาวุธมีดหลายจุด ประกอบไปด้วย บาดแผลลำคอ 2 แผลและข้อมือทั้งสองข้างข้างละอีก 2 แผล นอกจากนี้ยังพบแผลบริเวณหน้าท้องขนาดใหญ่ 1 แผล คล้ายการทำพิธีคว้านท้องตนเอง

บนเตียงพบมีดทำครัวขนาดความยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ตกอยู่ บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุพบว่ามีรอยเลือดหยดเป็นทางยาวจากบริเวณห้องครัวมายังห้องที่ผู้ตายเสียชีวิต

จากการสอบปากคำเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผู้ตาย เผยว่า ว่า ผู้ตายได้เดินทางมาจากญี่ปุ่นเข้ามาอยู่ในไทยได้ประมาณ 40 วัน พบครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) เวลาประมาณ 23.00 น. โดยผู้ตาย มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับอาการทางจิตเวช และได้รักษาตัวอยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อมาประเทศไทย ไม่มียารักษา พยายามหาซื้อยารักษาอาการทางประสาทแต่ก็หาไม่ได้

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพชาวญี่ปุ่นได้ส่งไปให้แพทย์ภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ผ่านชันสูตรและหาสาเหตุการตายต่อไป

บขส. ยังยินดีที่จะตรึงราคาค่าโดยสารให้กับประชาชน และยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการประชาชนด้วยบริการที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและมีการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด ทั้งภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารและบนรถโดยสารด้วย

นายประสาน กล่าวว่า อยากให้ สำนักงาน กสทช.พิจารณาการควบรวมครั้งนี้อย่างตรงไปตรงมา มองถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและประเทศชาติเป็นที่ตั้งสำคัญ เนื่องจากหากดีลนี้เกิดขึ้นจริงคงต้องเรียกว่า ถึงจุดจบของNT และถึงจุดจบการแข่งขันอย่างเสรีของโทรคมนาคมไทยอย่างแน่นอน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป